เอชไอวี กับเอดส์ แตกต่างกันอย่างไร

HIV หรือ เอชไอวี คือ เชื้อไวรัสเอชไอวีH: Human  คือ คนI: Immune Deficiency  คือ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องV: Virus คือ เชื้อไวรัส
AIDS หรือ เอดส์ เป็นกลุ่มอาการของโรค ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น วัณโรค ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งทำให้เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตA: Acquired คือ สิ่งที่ได้รับมา เกิดขึ้นภายหลังI :  Immune คือ ภูมิคุ้มกันD : Deficiency  คือ ภาวะ ภูมิที่พกพร่อง   S : Syndrome คือ กลุ่มอาการ  ที่แสดงออกหลายอย่าง
HIV (เอชไอวี) คือ เชื้อไวรัสเอชไอวีH: Human  คือ คน   I : Immune Deficiency  คือ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง V : Virus คือ เชื้อไวรัสเป็นเชื้อไวรัสเอชไอวีที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเสื่อม หรือบกพร่องลง เป็นผลทำให้เป็นโรคติดเชื้อ หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ อาการมักจะรุนแรง และเรื้อรัง และเสียชีวิตในที่สุด
AIDS (เอดส์) คือ กลุ่มอาการA: Acquired คือ สิ่งที่ได้รับมา เกิดขึ้นภายหลัง   I  :  Immune คือ ภูมิคุ้มกัน D  : Deficiency  คือ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง S  : Syndrome คือ กลุ่มอาการที่แสดงออกหลายอย่างเป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอชไอวีที่เข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำกว่าปกติและบกพร่อง ส่งผลให้เกิดโรคฉวยโอกาสขึ้น เช่น วัณโรค เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ตุ่มพีพีอี งูสวัด เป็นต้น

ช่องทางการติดต่อของเชื้อเอชไอวี/เอดส์  มี 3 ช่องทาง ดังนี้

1.การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ  เอชไอวีโดยไม่ป้องกันโดยการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ร้อยละ 83 ของผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ได้รับเชื้อจาการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน
2.การรับเชื้อทางเลือดพบได้ 2 กรณี คือ1) การใช้เข็มหรือกระบอกฉีดยาร่วมกับผู้มีเชื้อเอชไอวี มักพบในกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น
2) รับเลือดในขณะผ่าตัดหรือเพื่อรักษาโรคเลือดบางชนิด ซึ่งวิธีการนี้มีโอกาสติดเชื้อน้อยมากเนื่องจากรัฐบาลไทยมีนโยบายในการควบคุมคุณภาพของเลือดก่อนที่จะนำไปใช้กับผู้อื่น
3.ทางแม่สู่ลูกการติดต่อจากมารดาที่มีเชื้อเอชไอวีสู่ทารก ตั้งแต่ระยะอยู่ในครรภ์ ระยะคลอด และระยะเลี้ยงดูที่มารดาให้ทารกดื่มนมแม่หลังคลอด