โรคฉวยโอกาส หรือ โอไอ (OI)

O : Opportunisticแทรกซ้อนฉวยโอกาส
I : Infectionการติดเชื้อ

โรคฉวยโอกาส จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเกิดความอ่อนแอ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภูมิคุ้มกันร่างกาย เมื่อใดที่ภูมิคุ้มกันลดต่ำลง โอกาสที่โรคฉวยโอกาสต่าง ๆ จะแทรกซ้อน โดยส่วนใหญ่แล้วโรคฉวยโอกาสที่เกิดขึ้นกับผู้ติดเชื้อสามารถรักษาให้หายได้ รวมทั้งบางโรคที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้

โรคฉวยโอกาสที่เกิดในช่องปาก 

ผู้ติดเชื้อเอชไอวีควรใช้กระจกตรวจดูภายในช่องปากอย่างสม่ำเสมอว่ามีฝ้าลักษณะเป็นปื้นสีขาว ที่เพดานปาก หรือกระพุ้งแก้ม เป็นริ้วเส้นสีขาวข้างลิ้นทั้งสองข้าง หรือไม่ ในบางรายเมื่อกินอาหารรสจัด จะรู้สึกเจ็บแสบ  การรับรสเปลี่ยนไป

โรคอาการการดูแลตามอาการ
เชื้อราในปากมีลักษณะเป็นฝ้าขาว เป็นขุย มักขึ้นตามกระพุ้งแก้ม เพดานปาก ไม่เจ็บ แต่ทำให้กินอาหารไม่อร่อยบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งหลังอาหาร โดยเฉพาะเมื่อกินอาหารรสหวาน สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ฝ้าขาว อาการเจ็บภายในปาก การรับรสอาหาร และ การกลืน ไม่ควรขูด เพราะจะทำให้เกิดแผล ถ้าไม่รักษาจะทำให้เชื้อราลงหลอดอาหารได้ ไม่ควรใช้ยาสีฟันที่แรงเกินไป หรือไม่ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราบ้วนปากเพราะจะทำให้เสียสมดุลในปาก ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาตามเชื้อสาเหตุ  
เชื้อราในหลอดอาหารเกิดจากเชื้อราในปากลุกลามลงหลอดอาหาร ทำให้มีอาการกลืนติด ท้องเสีย
ริ้วขาวข้างลิ้น       (เชื้อไวรัส)ไม่มีผลต่อการกิน ขูดไม่ออก มักเป็นมากเวลาที่มีความเครียด ไม่เจ็บ และหายเองได้เมื่อพักผ่อนเพียงพอ
เริม (เชื้อไวรัส)เป็นตุ่มน้ำใส ปวดแสบปวดร้อน หายเองได้

อาการท้องเสียและท้องเสียเรื้อรัง 

โรคอาการการดูแลตามอาการ
ท้องเสียธรรมดาถ่ายเหลววันละ 2-3 ครั้ง สามารถหายได้เองภายใน 7 วัน มักเกิดจากน้ำดื่มและอาหารเนื่องจากอาการท้องเสียทำให้ร่างกายเสียน้ำ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ อย่างน้อย 1 แก้วต่อการถ่ายอุจจาระหนึ่งครั้ง หรือ ดื่มน้ำเกลือโออาร์เอส ไม่ควรงดอาหาร กินเท่าที่กินได้ แต่เน้นกินอาหารอ่อน ย่อยง่าย ไม่มีน้ำมัน สังเกตจำนวนครั้งที่ถ่ายในแต่ละวัน สังเกตลักษณะของอุจจาระ ไม่ควรกินยาหยุดถ่าย ถ้ามีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง ตาลึก หรืออาเจียนมาก กินไม่ได้ ถ่ายเป็นมูกเลือด มีไข้สูง ควรรีบไปพบแพทย์
ท้องเสียเรื้อรังถ่ายเหลวนานเกิน 2 สัปดาห์ติดต่อกัน มักเกิดจาติดเชื้อในลำไส้ เช่น แบคทีเรีย วัณโรค เชื้อพยาธิ เป็นต้น

โรคฉวยโอกาสทางผิวหนัง เป็นกลุ่มอาการของโรคที่เกิดขึ้นกับระบบผิวหนังของร่างกาย และเป็นตัวชี้บอกว่าภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ

โรคอาการการดูแลตามอาการ
งูสวัดงูสวัด อาการมีไข้ ปวดตามตัว ปวดแสบปวดร้อนบริเวณตุ่มขึ้น เป็นตุ่มน้ำใส ขึ้นตามแนวเส้นประสาท มักจะขึ้นเพียงซีกเดียวของร่างกาย พบบ่อยบริเวณใบหน้า ข้างลำตัว แขนและขา ในกรณีที่เป็นที่ใบหน้า เชื้ออาจทำให้กระจกตาเสีย ตาบอดได้ ถ้าแผลงูสวัด เป็นแผลกว้างมากกว่า 2 นิ้ว หรือเป็นมากกว่า 1 ครั้งในรอบ 1 ปี แสดงว่ามีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ทาแผลด้วยเบตาดีนอย่างน้อยวันละครั้ง กินยาเพื่อบรรเทาอาการปวด ในกรณีที่เป็นงูสวัดบริเวณใบหน้าควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อเข้าทำลายกระจกตา ทำให้ตาบอดได้
ตุ่มพีพีอีเป็นตุ่มนูนเหมือนตุ่มถูกยุงกัด มีอาการคันมากกว่าปกติ ทำให้เกิดการเกา หากเกาจนผิวหนังถลอก ทำให้แผลติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนทำให้กลายเป็นแผลมีหนองหรือนูนดำและเป็นแผลเป็นทำความสะอาดร่างกาย ทาโลชั่น และทำความสะอาดเครื่องนุ่งห่ม ของใช้ภายในบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ ตุ่มใหม่ ทา ทีเอครีม เฉพาะบริเวณที่เป็นตุ่ม ตุ่มเก่าทาเบตาดีน เช้า-เย็น กินยาลดคัน เช่น ซีพีเอ็ม อะทาแร็กซ์ หลีกเลี่ยงการเกา ตัดเล็บให้สั้น
เริมที่อวัยวะเพศเกิดจากเชื้อไวรัส อาการเริ่มแรกเป็นตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ มีอาการคัน ปวดแสบ ปวดร้อน เมื่อตุ่มน้ำแตกจะเป็นแผลตื้น ๆ เจ็บมาก ถ้าเป็นไม่มากแผลจะหายเอง ในรายที่ภูมิคุ้มกันต่ำเริมสามารถกลับมาเป็นได้อีกโดยเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้งล้างแผลด้วยน้ำสะอาด งดมีเพศสัมพันธ์ พาคู่นอนไปรักษาพร้อมกัน ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
สะเก็ดเงิน หรือเรื้อนกวางเป็นผื่นนูน มักเป็นบริเวณหนังศีรษะ ข้อศอก หัวเข่าทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นหลุดลอกออก ทำให้ผิวบาง แห้ง คัน จะเป็น ๆ หาย ๆ ในรายที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องมักจะเป็นรุนแรง คือเป็นทั้งตัว อาจมีอาการปวดตามข้อกระดูกร่วมด้วยดูแลให้ผิวหนังชุ่มชื้น เช่น ทาโลชั่น น้ำมันมะกอก ถ้าเป็นแผลให้ทำแผลด้วยน้ำสะอาด เป็นมากพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อกินยาควบคุมอาการ รักษาไม่หาย แต่ควบคุมอาการได้ เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ไม่ใช่โรคติดต่อ
ผื่นแพ้ยาเป็นผื่นแดง เป็นปื้น อาจมีไข้หรือคันดื่มน้ำมาก ๆ กินยาแก้แพ้ เป็นมากควรพบแพทย์

โรคฉวยโอกาสระบบทางเดินหายใจ โรคฉวยโอกาสที่พบบ่อยในระบบทางเดินหายใจ คือ ปอดอักเสบพีซีพี ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ไซนัสอักเสบ และวัณโรค

   โรคอาการการดูแลตามอาการ
ปอดอักเสบพีซีพีมีไข้เพราะมีการติดเชื้อพีซีพี ไม่ไอ หรือ ไอน้อย ไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะ เหนื่อยหอบมาก หายใจไม่อิ่มเช็ดตัวลดไข้ รีบไปพบแพทย์ เพื่อดูแลรักษา
ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียมีไข้ เพราะติดเชื้อ ไอมาก เพราะมีเสมหะ เสมหะมีสีเหลือง เขียว มีอาการเหนื่อย หอบจากการไอ อาจมีเจ็บหน้าอก เนื่องจากไอเช็ดตัวลดไข้ กินน้ำอุ่นเพื่อละลายเสมหะ รีบไปพบแพทย์เพื่อดูแลรักษา
ไซนัสอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียปวดบริเวณหน้าผาก(หัวคิ้ว) กระบอกตา ขมับ เพราะมีการคั่งของน้ำมูกบริเวณไซนัส มีน้ำมูกใส หรือเป็นหนอง เพราะการติดเชื้อ แน่น คัดจมูก ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น พูดเสียงขึ้นจมูก อาจมีไข้ กรณีเรื้อรังหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ ดูแลรักษาความสะอาดบ้านเรือน สิ่งแวดล้อมไม่ให้มีฝุ่น ควัน กินยาลดบวม
วัณโรคมีไข้เรื้อรัง เป็นไข้ต่ำ ๆ หลายสัปดาห์ ถ้าซีดี 4 ต่ำมักจะเป็นไข้สูง น้ำหนักลด ประมาณ 5-10 กก.ในผู้ใหญ่ เหงื่อออกตอนกลางคืน ไอเรื้อรัง เสมหะสีขาวไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ไอจาม ปิดปาก จมูก เพื่อป้องกันเชื้อกระจายสู่คนอื่น ในระยะแพร่เชื้อควรแยกภาชนะ เครื่องใช้ ของใช้ส่วนตัวออกจากคนอื่น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อวัณโรคสู่คนอื่น รับประทานอาหารปรุงสุก ใช้ช้อนกลาง จัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำความสะอาดบริเวณบ้าน นำเครื่องนุ่งห่มมาผึ่งแดดสม่ำเสมอ

โรคฉวยโอกาสระบบประสาท คือเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา ฝีในสมอง คนส่วนใหญ่มีเชื้ออยู่แล้วถ้าภูมิคุ้มกันร่างกายสูงจะสามารถควบคุมโรคไว้ได้ แต่ถ้าเมื่อใดที่ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำอาการของโรคจะปะทุ ทำให้มีอาการแสดง และเจ็บป่วย

โรคอาการการดูแลตามอาการ
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา คริปโตไข้สูง ปวดศีรษะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กินยาแก้ปวดไม่หาย เนื่องจากแรงดันในสมองสูง ทำให้อาการปวดรุนแรง อาเจียนพุ่ง คอแข็ง การมองเห็นเปลี่ยน สับสน อาจซึมลงและหมดสติลดไข้ ดูแลตามอาการ รีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยเฉพาะและการรักษา
ฝีในสมองไข้สูง ปวดศีรษะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กินยาแก้ปวดไม่หาย อาเจียนพุ่ง อัมพาตครึ่งซีก มุมปากตก ตาเขลดไข้ ดูแลตามอาการ รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยเฉพาะและการรักษา